ล้างพิษตับ บ้านรักสุขภาพสัตหีบ. ขับเคลื่อนโดย Blogger.
RSS

กัวซา ภูมิปัญญาชาวบ้านในการเอาพิษออกจากร่างกาย

กัวซา ภูมิปัญญาชาวบ้านในการเอาพิษออกจากร่างกาย
วันนี้ ชมรมล้างพิษตับ กลุ่มบ้านรักสุขภาพสัตหีบ ขอนำเสนอการทำ กัวซา ศาสตร์บำบัดแบบชาวจีน ในการขูดเอาพิษออกจากร่างกาย ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่ยังคงนำมาใช้ในกลุ่มคนที่ต้องการดูแลฟื้นฟูสุขภาพร่างกายของตนเองให้มีสภาพที่สมบูรณ์อยู่เสมอ  ถึงแม้ว่าการแพทย์แผนปัจจุบันจะมีความทันสมัยมากถึงขั้นสูงสุดแล้วก็ตามแต่สุขภาพของคนเราก็ยังตกต่ำอยู่อย่างต่อเนื่อง  หากลองเปรียบเทียบกับสมัยก่อนตอนที่เรายังเป็นเด็กอยู่จะเห็นว่าการแพทย์ก็ยังไม่เจริญมากถึงเพียงนี้ ถนนหนทางต่าง ๆ ก็ยังไม่สะดวก อาหารการกินก็กินอยู่แบบไทย ๆ แบบบ้าน ๆ คือ หาปลา ปู กุ้ง หอย กินเป็นอาหาร ปลูกผักเลี้ยงไก่กินเอง นาน ๆ ครั้งถึงจะได้ไปตลาดซื้อขนมนมเนยสักครั้ง แต่ร่างกายของเราก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย แข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วย เหมือนกับคนสมัยนี้ ซึ่งเกิดมาพร้อมกับความเจริญด้านต่าง ๆ พร้อมสรรพ์ ฉีดวัคซีนตามที่หมอกำหนดตามตารางครบทุกรอบ แต่ทำไมอายุของคนสมัยนี้จึงไม่ยืนยาวเหมือนคนสมัยก่อน ๆ เริ่มเจ็บป่วยตั้งแต่อายุยังไม่มากเท่าที่ควร เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคเกาต์ โรคอ้วน เป็นต้น 

     กัวซา จึงถือว่าเป็นศาสตร์บำบัดที่ยังคงมีประสิทธิภาพที่ยังใช้กันอยู่ ถึงแม้จะเป็นเฉพาะกลุ่มก็ตาม  แต่นับวันศาสตร์นี้ก็เริ่มกลับมาเป็นที่สนใจเพิ่มขึ้นอีกตามลำดับ ถึงแม้จะยังไม่มากก็ตาม แต่ก็ถือได้ว่ามีคนเข้ามาศึกษาศาสตร์ของกัวซากันเพิ่มมากขึ้น มีคนบอกว่าหมอที่เก่งที่สุดก็คือตัวเรา และเครื่องมือที่แท้จริงในการบำบัดโรคคือ ร่างกายของเรานั่นเอง       กัวซาจึงเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านของชาวจีน ชาวเขา กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษจวบจนปัจจุบัน มีประสิทธิภาพโดดเด่นในการเอาพิษออกจากร่างกายทางผิวหนัง ปัจจุบันนี้สังคมเจริญก้าวหน้า เศรษฐกิจรุ่งเรือง แต่สุขภาพของผู้คนกลับถดถอยลง ยิ่งเมื่อประสบภาวะความกดดันและการทำงานที่เร่งรีบ ทำให้ผู้คนมีเวลาในการออกกำลังกายน้อยลง หรือแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ เป็นผลให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายไม่สามารถทำงานหมุนเวียนได้อย่างราบรื่นจึงทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา และแพทย์แผนปัจจุบันก็ไม่สามารถที่จะรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ดังนั้น "การถอนพิษแบบกัวซา"  จึงได้รับความนิยมขึ้นมาอีกครั้งตามลำดับ อีกทั้งกัวซายังสามารถทำได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องไปหาหมออีกด้วย

     การถอนพิษแบบกัวซา โดยสรุปก็คือ การขูดผิวหนังเพื่อกระตุ้นระบบหมุนเวียนโลหิต ส่งเสิรมการไหลเวียนของพลังปราณในร่างกายและเป็นการถอนพิษที่ไม่ถูกจำกัดทั้งเวลาและสถานที่ สามารถทำไ้ทุกเวลาที่ต้องการ เพียงแต่เจียดเวลาวันละไม่กี่นาที โดยเริ่มขูดจากศีรษะจนถึงเท้า ก็สามารถกระตุ้นให้เลือดหมุนเวียนได้ดีขึ้น กระตุ้นระบบเมตาโบลิซึ่ม ของร่างกาย ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ สุขภาพที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัย 

     กัวซา เพื่อการบำบัดแบบศาสตร์จีนโบราณ
กัวซา การนวดบำบัดแบบศาสตร์จีน คือการบำบัดแบบแผนจีนโบราณ ซึ่งมีมานานแล้วประมาณพันปีล่วงมาแล้ว การนวดบำบัดแบบกัวซา เป็นการกระตุ้นระบบเมตาโบลิซึ่มของร่างกาย มีผลทำให้สุขภาพแข็งแรง แก้ปัญหาการปวดเมื่อย ปวดหลัง ปวดเอว ปวดศีรษะ เช่น ปวดไมเกรนซึ่งได้ผลดี นอกจากนั้นกัวซาถือว่าเป็นการออกกำลังกายแบบกัวซาที่พอเหมาะส่งผลให้ร่างกายและจิตใจ แข็งแรง กระตุ้นระบบเมตาโบลิซึ่มของร่างกาย และช่วยชะลอความแก่ได้อีกด้วย 

     ประโยชน์ของกัวซา
การนวดบำบัดแบบกัวซา มีประโยชน์คือ
1. แก้ปัญหาอาการปวดเมื่อย ปวดหลัง ปวดเอว
2. ช่วยในการไหลเวียนของเลือดทั่วร่างกาย
3. เพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย
4. ทำให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น สุขภาพดีขึ้น
5. เสริมความงาม ชลอความแก่
6. ช่วยบำบัดอาการของโรคต่าง ๆ 
7. ทำให้ค้นพบสาเหตุของโรคต่าง ๆ 
8. สามารถบอกตำแหน่งของโรคที่เกิดขึ้น
9. ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต่าง ๆ 
10. ทำให้สุขภาพดีขึ้น

     กัวซามีจุดเด่นและเป็นเอกลักษณ์
1. วิธีนวดบำบัดง่าย เรียนรู้ได้ง่าย
2. สามารถทำได้ทุกเวลา ทุกสถานที่
3. ไม่มีผลข้างเคียงจากการบำบัด
4. สามารถบำบัดได้แม้สวมเสื้อผ้าอยู่

     อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการกัวซา
1. ไม้กัวซา ช้อน ชามขอบเรียบ เหรียญ ช่วยขูดถอนพิษร้อน ช่วยเอาพิษออกได้เร็วขึ้น
2. ขี้ผึ้ง หรือน้ำมันสมุนไพร ถ้าป่วยจากภาวะร้อนเกิน ให้ใช้สมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น เช่น ขี้ผึ้งย่านาง น้ำมันเขียว ขี้ผึ้งเสลดพังพอน น้ำมันพืช หร้อน้ำ ฯลฯ
    (ถ้าป่วยจากภาวะเย็นเกิน ให้ใช้สมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน เช่น ขี้ผึ้งไพร น้ำมันงา เป็นต้น)  ถ้าอากาศเย็นเกิน หากใช้สมุนไพรที่เย็นเกินก็จะทำให้ภาวะเย็นเข้ากระดูก หรือที่เรียกว่า หนาวเข้ากระดูกได้

     เทคนิคการทำกัวซา
1. จัดไม้กัวซา ทำมุม 45 องศา
2. ที่ตำแหน่งของกระดูกข้อต่อ สามารถขูดผ่านได้ โดยขูดไม่ลงน้ำหนักแรง
3. พยายามขูดให้ได้พื้นที่ยาว (ส่วนหน้าอก ส่วนท้อง ส่วนใบหน้า ส่วนไหล่ จากนอกเข้าใน ส่วนอื่น ๆ จากบนลงล่าง)
4. ระดับของพิษสะสม จากการศึกษาพบว่าระดับของลมพิษจะแบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้
    4.1 พิษสะสมอยู่ในระดับเซลล์เนื้อเยื่อ วิธีการขูดเอาพิษออก ให้ขูดผ่านผิวหนังได้เลย บริเวณผิวหนังเรียบ เช่น ขูดบริเวณแผ่นหลัง ที่เป็นผิวเรียบ ขูดบริเวณใบหน้า แขน ขา ฯลฯ
     4.2 พิษสะสมอยู่ลึกไปถึงล่องกล้ามเนื้อ วิธีการขูดเอาพิษออก ให้ใช้วิธีแซะ เขี่ย ตามล่องกล้ามเนื้อ ตามล่องกระดูก ล่องซีกโครง เช่น ปวดตึงตรงบริเวณสะบักทั้ง 2 ข้าง (ที่อยู่แผ่นหลัง ให้อยู่ในท่าเอามือไขว้หลัง ใต้สะบักจะเห็นเป็นล่อง จะช่วยขูดแซะง่ายขึ้น
     4.3 พิษสะสมอยู่ลึกไปถึงไขกระดูก เมื่อกระดูกเคลื่อนที่ผิดรูป พิษก็จะเข้าไปฝังอยู่ในไขกระดูก เช่น ปวดที่กระดูกก้นกบมาก เราจะต้องกัวซาตรงรูกระดูกก้นกบ เพื่อขับลมพิษออก (สาเหตุมาจาก นั่งผิดท่าเป็นเวลานาน และไม่ออกกำลังกาย ยืดกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ทำให้ของเสียไปค้างอยู่เวลานี้มาก และทานอาหารไม่สมดุลอีกด้วย)

     วิธีการกัวซา
1. ไม่ว่าเป็นโรคอะไรก็ตามควรเริ่มขูดที่ชีพจรหลักก่อน จากนั้นจึงขูดจุดที่ป่วย (ชีพจรหลักอยู่ที่แนวกระดูกสันหลังทั้งแกน) ควรเริ่มจากด้านซ้ายมาก่อนเสมอ  ขูดจากแผ่นหลังตั้งแต่ต้นคอลงยาวมาจนถึงเอวให้ลงน้ำหนักเท่าที่จะไม่เจ็บมาก  ลงน้ำหนักสม่ำเสมอพอสมควรแล้วจึงย้ายมาขูดด้านขวาต่อ
2. การใช้แรงขูดต้องสม่ำเสมอ บนแนวชีพจรที่ขูดควรขูดจนเห็นรอยจุด (ซา) ปรากฎขึ้นมา จากนั้นจึงขูดตำแหน่งอื่นต่อไป (การขูดที่พอดีคือ ขูดให้ผิวมีสีแดงจนกว่าจะไม่แดงไปกว่านั้น)
3. ปกติหลังจากขูดแล้ว 2-3 วัน ตำแหน่งโรคที่ขูดจะมีอาการเจ็บปวดปรากฎขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ หลักจากขูดจนซาออกหมดแล้ว ต้องรออีก 5 - 7 วัน จึงจะสามารถขูดซ้ำได้อีก การขูดเพื่อสุขภาพสามารถขูดผ่านเสื้อได้ทุกวัน
4. ถ้าตำแหน่งที่ขูดไม่ถูกต้องแม่นยำ หรือ เทคนิคการใช้มือขูดไม่ถูกต้อง ก็ไม่ก่อให้เกิดอาการแทรกซ้อนแต่อย่างใด สามารถขูดได้อย่างไม่ต้องกังวลใจใด ๆ ทั้งสิ้น
5. หลังขูดซาแล้วให้ดื่มน้ำประมาณแก้วใหญ่ ๆ เพื่อช่วยระบบเมตาโบลิซึ่มของร่างกายให้ดีขึ้น
6. สถานที่ขูดกัวซาจะต้องไม่เป็นที่ลมแรง เช่นหน้าพัดลม หรือในห้องที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ  เนื่องจากจะทำให้เสียสมดุลของหยินและหยาง
7. สามารถทำการกัวซาหลังอาบน้ำไม่น้อยกว่า 1/2 - 1 ชั่วโมง (เพื่อให้รูขุมขนกลับสู่สภาพปกติ)
8. หลังทำกัวซาควรเกิน 5 - 8 ชั่วโมงขึ้นไป จึงสามารถอาบน้ำได้ หรือเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นหลังกัวซา 30 นาที

วิธีสังเกตุสีผิวหลังการทำกัวซา (ดูอาการพิษสะสม)
1. สีชมพูหรือสีแดงเรื่อ ๆ   แสดงว่า    ดี
2. เป็นปื้น ๆ                   แสดงว่า  พิษเริ่มสะสมแล้ว
3. เป็นจ้ำ ๆ เหมือนไข้เลือดออก  แสดงว่า  พิษสะสมนานแล้ว ในทางแพทย์ทางเลือก เรียกว่า  ลมแตก
4. ถ้าเป็นลักษณะช้ำ         แสดงว่า มีพิษสะสมมาก
     ยิ่งถ้าช้ำจนถึงขั้นสีม่วงหรือสีดำ  ในทางแพทย์ทางเลือกถือว่า มีพิษมากถึงขั้นมะเร็ง ซึ่งการตรวจในทางการแพทย์แผนปัจจุบันอาจพบว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ก็ได้ ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมาพบว่าผู้ป่วยที่แพทย์แผนปัจจุบันวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง ร้อยละ 80 มักขูดซาพบสีม่วงหรือสีดำ การกัวซาจึงเป็นทั้งการวินิจฉัยโรคและการรักษาโรค ไปพร้อมกัน ส่วนใหญ่ไม่เกิน 7 วัน รอยแดงนั้นมักจะยุบหายไป 

การนวดหน้าด้วยกัวซา
การนวดหน้าด้วยกัวซาเพื่อใบหน้าที่สดใส อ่อนกว่าวัย เป็นการนวดใบหน้าด้วยกัวซา ซึ่งช่วยให้การหมุนเวียนของเลือดดีขึ้นส่งผลให้เซลล์ผิวเกิดความยืนหยุ่นและผิวเรียนเนียน เป็นการกระตุ้นที่เซลล์ผิวหน้าโดยเพิ่มการหมุนเวียนของออกซิเจน และ เพิ่มการดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ สามารถยกกระชับใบหน้า ส่วนที่หย่อนคล้อยและมีริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้ใบหน้าของคุณสวยใส ดูอ่อนกว่าวัยช่วยชลอความแก่ ลดริ้วรอย  การนวดใบหน้าด้วยกัวซาสามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา ตามที่ต้องการและสามารถเห็นผลได้จริงในทันที

     จุดเด่นของการนวดหน้าด้วยกัวซา
1. วิธีนวดหน้าทำได้ง่าย เรียนรู้เองได้ทันที
2. สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา ทุกสถานที่
3. ไม่มีผลข้างเคียงจากการนวดใบหน้า
4. สามารถทำให้ใบหน้าคุณสวยใสขึ้นทันที

หากท่านมีข้อสงสัยในการทำกัวซา สอมถามได้ที่ 
 

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น